การกวาดยาสมุนไพร คืออะไร?
เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของวิธีการรักษาโรคเด็ก ของภูมิปัญญาไทย ด้วยเหตุว่ายาไทยรสไม่อร่อย ทำให้เด็กกินยายาก อีกทั้งหากเป็นเด็กเล็กกินยาเองยังไม่ได้จำต้องพายาเข้าสู่ร่างกายด้วยการกวาดยาสมุนไพร โรคที่สามารถรักษาโดยการกวาดยาสมุนไพรมีอยู่หลายระบบ เช่น เป็นโรคในระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ระบบผิวหนัง โดยอาการเบื้องต้นเกิดจากการสังเกตุเห็นความผิดปกติ เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย ท้องผูก ลิ้นเป็นฝ้า ละออง แผลในปาก กระพุ้งแก้ม ตุ่ม ผื่นคัน หวัด ไอ มีเสมหะ อาการเหล่านี้ทางการแพทย์แผนไทยและชาวบ้านทั่วไปทราบกันดีว่าอยู่ในกลุ่มโรค ซาง หละ ละออง เป็นต้น ซึ่งโรคเป็นโรคพื้นๆ ที่คนในครอบครัวชุมชนดูแลกันในเบื้องต้นได้
จะเห็นได้ว่า หัตถการกวาดยาสมุนไพร ไม่ใช่การรักษาเฉพาะเด็กเท่านั้น ผู้ใหญ่ ผู้สูงวัย ที่มีอาการโรคดังกล่าวก็สามารถรักษาได้ด้วยเช่นกัน
ตำรับยาสมุนไพรที่ใช้ในการกวาดยา มีอะไร รักษาอาการอะไรได้บ้าง?
ยาสามัญประจำบ้านหลายตำรับที่มีขายตามร้านขายยาทั่วไป และมีสรรพคุณตามโรคและอาการที่เป็นบ่อยๆ เช่น
1.ยาเหลืองปิดสมุทร : ใช้ในกรณีเด็กท้องเสีย
2.ยาอัมฤควาที : ใช้ในกรณีที่เด็กไอ มีเสมหะ
3.ยาตรีหอม : ใช้ในกรณีที่เด็กมีไข้ ท้องผูก
4.ยามหานิลแท่งทอง : ใช้ในกรณีเด็กปากเปื่อย ตัวร้อน
5.ยาแสงหมึก : ใช้ในกรณีเด็กเป็นฝ้า ละออง
6.ยาประสะกะเพรา : ใช้ในกรณีเด็กแพ้อากาศ มีน้ำมูก
สิ่งสำคัญประการหนึ่งในการใช้ยาไทยคือต้องใช้น้ำกระสายเพื่อให้นำมาละลายยาและตรงกับโรคที่เป็นได้มากขึ้น ซึ่งการใช้น้ำกระสายยามีหลักการดังนี้
- อาการไอ มีเสมหะ น้ำกระสาย ใช้น้ำมะนาว แทรกเกลือ เป็นต้น
- อาการไข้ น้ำกระสาย ใช้น้ำดอกไม้เทศ เป็นต้น
- อาการลิ้น ปากเป็นแผล น้ำกระสายใช้เบญกานี เป็นต้น
ถ้าไม่มีน้ำกระสายที่กล่าวมา ใช้น้ำต้มสุกเป็นกระสายแทนได้ทุกกรณี
อุปกรณ์ที่ใช้ในการกวาดยาสมุนไพร?
1.ถุงมือ หรืออาจจะเป็นถุงนิ้วมือใส่เฉพาะนิ้วที่จะป้ายยาสำหรับกวาด เพื่อความสะอาดป้องกันเล็บบาด หรือครูดภายในปาก และป้องกันโรคที่อาจจะติดต่อหากเกิดแผล
2.นิ้วมือของหมอผู้กวาดยา โดยมากใช้นิ้วชี้กับนิ้วก้อย แล้วแต่ขนาดของทารกและเด็ก ถ้าเป็นเด็กโตก็ต้องใช้ยามากจึงต้องใช้นิ้วชี้ ถ้าเป็นเด็กเล็ก หรือทารก การใช้ยาก็น้อยลงจึงใช้นิ้วก้อย โดยตัดเล็บให้สั้นและล้างมือด้วยน้ำสบู่ให้สะอาด
ตำแหน่งที่กวาดยาสมุนไพร
เป็นตำแหน่งที่ผู้กวาดยาต้องการให้ยาถูกหรืออยู่ติดบริเวณนั้น มักเป็นโคนลิ้น เพื่อให้เด็กกลืนยาเข้าไปหลังการกวาดยา และบริเวณที่มีอาการของโรคปรากฏ ให้สังเกตเห็นได้โดยการดูและสัมผัสโดยปลายนิ้ว
ข้อปฏิบัติในการกวาดยาสมุนไพร
สำหรับเด็ก/ผู้ที่มารักษา
1.งดอาหาร น้ำ นม ข้าว ขนมก่อนกวาดยาประมาณ 20-30 นาที เพื่อป้องกันเด็กอาเจียน
2.ควรปลุกเด็กให้ตื่นก่อนกวาดยา ถ้าเด็กหลับจะงุ้มปากและเอาลิ้นดุนเพดานไว้ ทำให้กวาดยาไม่ได้
3.จับเด็กนอนหงาย บนตักผู้อุ้ม พร้อมจับมือทั้งสองข้างให้แนบแน่นกับลำตัวของเด็ก ป้องกันทารกหรือเด็กปัดมือผู้กวาดยา
4.หลังจากกวาดยาแล้วให้อุ้มอยู่ในท่าเฉลียงเอาศรีษะขึ้น 45องศา จนกว่าเด็กจะกลืนยาหมด แต่ถ้าเด็กอาเจียน ให้ค่อยๆ ยกศรีษะขึ้น สิ่งที่อาเจียนออกมาจะได้ไหลสะดวกไม่สำลักเข้าหลอดลม
5.หลังจากกวาดแล้ว ควรงดอาหารและน้ า 5 นาที เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น
สำหรับแพทย์แผนไทยผู้กวาดยา
ก่อนที่จะกวาดยาต้องพูดให้เด็กเข้าใจเพื่อให้เด็กร่วมมือในการกวาดยา และไม่ต่อต้านซึ่งจะช่วยให้เด็กไม่กลัวการกวาดยา
1.ทำความสะอาดมือ นิ้วมือ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ให้สะอาด
2.นำยาที่เตรียมไว้ป้ายที่ปลายนิ้วชี้ หรือนิ้วก้อย ตามขนาดยาที่จะใช้ และการกวาดยาจะกวาดเพียงครั้งเดียวจะไม่กวาดใหม่ ดังนั้นจึงต้องใช้ยาเพียงพอสำหรับการกวาด 1ครั้ง
3. เผยอปากเด็กโดยใช้นิ้วแม่มือข้างที่ใช้กวาด กดลงที่ฟันหรือเหงือกล่างของเด็ก
4.มืออีกข้าง ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับที่หน้าเด็กใช้นิ้วทั้งสองอยู่ระหว่างแก้มเด็กทั้ง 2 ข้าง พร้อมกับประคองศรีษะเด็กให้นอนหงายขึ้นตรงๆ
5.เมื่อเด็กอ้าปากออก ก็สอดนิ้ว เข้าไปในลำคอเด็ก โดยป้ายยาลงบริเวณโคนลิ้นเบาๆ พอให้ยาติดอยู่ที่บริเวณโคนลิ้นแล้วค่อยๆ ดึงนิ้วออกพร้อมทั้งปล่อยหัวแม่มือที่กดอยู่ฟันล่างหรือเหงือกออก
หมายเหตุ : การกวาดยาควรกวาดยาวันละ 1ครั้ง ในตอนเย็น ถ้าอาการไม่มากให้กวาดวันเว้นวัน